สิวผด หรือสิวเทียม มีลักษณะเฉพาะคือ เป็นตุ่มแหลมเล็ก สากๆ ไม่สามารถกดออก หรือบีบออกได้ มักขึ้นบริเวณหน้าผาก ขมับ ข้างจมูก ลักษณะผดเป็นสีเนื้อ เหมือนผิวหน้า แต่อาจอักเสบแดงคันได้ มักจะดูเรียบในตอนเช้าที่อากาศเย็น และเห่อขึ้นมาในตอนบ่ายที่อากาศร้อน ซึ่งจะแตกต่างจากสิวอุดตันและสิวอักเสบค่ะ

สาเหตุของการเกิดสิวผด

1.เกิดจากมลภาวะแสงแดดและความร้อน

2.เกิดจากเชื้อยีสต์ ชื่อ P.Ovale โดยมักพบในช่วงอากาศร้อน หน้ามัน เหงื่อออกมาก ทั้งน้ำมันบนใบหน้าและความชื้น จะทำให้เชื้อยีสต์เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดผดเล็กๆ เห่อขึ้นมาได้ทันทีค่ะ

3.การล้างหน้าไม่ถูกต้อง เช่น ชอบล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเป็นประจำ ล้างหน้าบ่อยเกินไป ชอบเช็ดถูหน้ารุนแรง เป็นต้น

4.เกิดจากการแพ้ เช่น การแพ้เครื่องสำอางค์ และการใช้แปรงแต่งหน้าที่ไม่สะอาด รวมถึงการล้างเครื่องสำอางค์ไม่สะอาด

5.เกิดจากการแพ้อื่นๆ เช่น แพ้น้ำ แพ้เหงื่อ แพ้ฝุ่น และ การแพ้สารก่อฟอง ที่พบในยาสระผมและครีมล้างหน้าบางชนิด

6.การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ร่างกายอ่อนแอ ทำให้เกิดสิวผดได้

วิธีการรักษาสิวผด

1.ควรหลีกเลี่ยงมลภาวะ ฝุ่น แสงแดดและความร้อน

2.ทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป เป็นประจำ ก่อนออกจากบ้าน

3.ไม่ควรบีบแกะสิวผด เพราะจะทำให้ยิ่งเห่ออักเสบมากขึ้น เกิดรอยดำและแผลเป็นตามมาได้ง่าย

4.ควรล้างหน้าอย่างถูกวิธี ดังนี้ค่ะ

- ใช้สบู่ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน

- ล้างหน้าอย่างเบามือ ไม่สครัป ไม่ขัดถูใบหน้า

- ไม่ใช่น้ำอุ่นล้างหน้า ควรใช้น้ำธรรมดา

- ไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไป โดยทั่วไป หากใช้สบู่ล้างหน้า ไม่ควรใช้เกินวันละ 2 ครั้ง

- สามารถใช้น้ำเปล่าล้างหน้า ในระหว่างวันได้

- หลังการล้างหน้า ควรซับหน้าเบาๆให้แห้ง ไม่เช็ดถูหน้ารุนแรง

- หลังการออกกำลังกายทุกครั้ง ควรล้างหน้าทันที และควรอาบน้ำ สระผมทันทีเช่นกัน

5.หลังการล้างหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น แข็งแรง ไม่แพ้ง่าย

6.หลีกเลี่ยงการใช้กรดผลไม้ หรือยาละลายสิวที่เป็นกรด เพราะจะทำให้ผิวระคายเคือง สิวผดอักเสบมากขึ้น

7.ไม่ควรซื้อยาแก้คันมาทาเอง เพราะอาจมีสารสเตียรอยด์ ทำให้สิวผดหายคันยุบชั่วคราว แล้วมักเห่อมากขึ้นในภายหลังค่ะ

8.การใช้ยาละลายสิวผด และยาคีโตโคนาโซล สำหรับสิวผดที่เกิดจากเชื้อยีสต์ ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ค่ะ