2. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

• การเปลี่ยนแปลงในระดับฮอร์โมนสามารถทำให้ผมร่วงได้ เช่น:
  •  การตั้งครรภ์: การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์อาจทำให้ผมมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่มักจะมีผมร่วงหลังจากคลอด
  • วัยหมดประจำเดือน: เมื่อฮอร์โมนเพศหญิงลดลงในช่วงวัยหมดประจำเดือน อาจส่งผลให้ผมบางลง
  • ปัญหาฮอร์โมนอื่นๆ: เช่น ปัญหาเกี่ยวกับไทรอยด์ (ฮอร์โมนไทรอยด์สูงหรือต่ำ) สามารถทำให้ผมร่วง

  • ภาวะผมร่วงหลังคลอด (Postpartum Hair Loss) เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยในผู้หญิงหลังจากคลอดบุตร โดยปกติแล้วจะเกิดขึ้นประมาณ 3-6 เดือนหลังคลอด และถือเป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติเพราะผมมักจะกลับมามีความหนาและแข็งแรงได้เอง

    สาเหตุของผมร่วงหลังคลอด

    1.การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยระหว่างการตั้งครรภ์ ร่างกายของผู้หญิงจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนในปริมาณมาก ซึ่งช่วยทำให้เส้นผมคงอยู่ในระยะการเจริญเติบโต (Anagen phase) ทำให้ผมดูหนาขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ หลังจากคลอด ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผมที่อยู่ในระยะการเจริญเติบโตหลุดร่วงเข้าสู่ระยะการพักตัว (Telogen phase) และหลุดร่วงมากกว่าปกติในช่วงนี้

    2.ความเครียดทางจิตใจและร่างกาย การคลอดและการเลี้ยงดูลูกในช่วงหลังคลอดอาจทำให้เกิดความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งอาจทำให้ผมร่วงเพิ่มขึ้น

    3.การขาดการนอนหลับและการที่ร่างกายต้องปรับตัวจากการตั้งครรภ์และการคลอดลูกก็อาจส่งผลให้ผมร่วงได้เช่นกัน

    4.การขาดสารอาหาร ผู้หญิงหลังคลอดอาจมีภาวะขาดสารอาหารจากการให้นมบุตรหรือไม่สามารถรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน ซึ่งอาจทำให้เส้นผมขาดความแข็งแรงและทำให้ผมร่วงได้

    อาการของผมร่วงหลังคลอด

    • ผมร่วงจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมักจะร่วงมากในช่วงระหว่าง 3-6 เดือนหลังคลอด
    • มักจะเห็นผมร่วงในบริเวณ กลางศีรษะ, ร่องข้างๆ หน้า หรือ แนวผมด้านข้าง
    • โดยปกติแล้วผมจะเริ่มกลับมาหลังจาก 6-12 เดือน และการเจริญเติบโตของเส้นผมจะกลับสู่สภาวะปกติ

    
    

3. ความเครียด

• ความเครียดจากภาวะต่างๆ เช่น การทำงานหนัก ป่วยหนัก ไข้สูง หรือเหตุการณ์ชีวิตที่ทำให้เกิดความเครียด กระทบกระเทือนจิตใจ สามารถทำให้ผมร่วงได้ในช่วงระยะสั้น เรียกว่า telogen effluvium ปริมาณผมร่วงจะมากในช่วงเวลา 2-3 เดือนหลังจากการกระทบกระเทือน  ทำให้ผมเข้าสู่ระยะการหลุดร่วงในระยะเวลาหนึ่ง แต่สามารถฟื้นฟูได้เมื่อความเครียดลดลง 
• 
  

4. โภชนาการที่ไม่ดี

• ขาดสารอาหารที่สำคัญสำหรับการเจริญเติบโตของเส้นผม เช่น:
  • โปรตีน เส้นผมประกอบด้วยโปรตีน ซึ่งการขาดโปรตีนสามารถทำให้ผมร่วง
  • ธาตุเหล็ก ขาดธาตุเหล็กอาจทำให้ผมร่วงโดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาก
  • ธาตุสังกะสี การขาดธาตุสังกะสีอาจทำให้การเจริญเติบโตของเส้นผมช้าลง และทำให้ผมหลุดร่วง
  • วิตามินบี เช่น ไบโอตินและวิตามินบี12 ที่ช่วยเสริมการเติบโตของเส้นผม

5. โรคและสภาพทางการแพทย์

• การมีโรคบางประเภทหรือการใช้ยาบางตัวอาจทำให้ผมร่วงได้ เช่น:
  • -โรคแพ้ภูมิตัวเอง เช่น SLE, Alopecia Areata: เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์รากผม ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมๆ
  • -โรคผิวหนัง: เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคกลาก หรือโรคผิวหนังอักเสบต่างๆ ที่สามารถทำให้ผมร่วงได้
  • -ยาบางชนิด: เช่น ยาคีโม ยากันชัก

  • -Trichotillomania (TTM) หรือ โรคดึงผมตัวเอง  เป็นภาวะทางจิตที่ทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกอยากดึงผมของตัวเองออกมาโดยไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำซ้ำๆ โดยมักจะเกิดในบริเวณต่างๆ ของร่างกาย เช่น หนังศีรษะ, คิ้ว, ขนตา หรือขนบริเวณอื่นๆ ในร่างกาย

    ลักษณะของโรค Trichotillomania การดึงผมออกเป็นประจำ ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีความรู้สึกอยากดึงผมออกโดยไม่สามารถหยุดได้ อาจดึงผมโดยไม่รู้ตัวหรือในขณะที่รู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล การดึงผมมักจะเกิดขึ้นในระหว่างการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดูทีวี, อ่านหนังสือ หรือแม้กระทั่งในช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย ผู้ป่วยจะมีความรู้สึกกดดันที่จะดึงผมออก และเมื่อผมร่วงออกแล้วจะรู้สึกผ่อนคลายหรือได้รับการปลอบโยนจากการกระทำนี้

    สาเหตุของโรค ยังไม่ชัดเจน อาจเกิดจากพันธุกรรม มักเกี่ยวข้องกับการมีความเครียด เบื่อหน่าย หรือมีความวิตกกังวล

    วิธีการรักษา Trichotillomania ได้แก่

    -การบำบัดทางจิตและพฤติกรรมทางปัญญา (Cognitive Behavioral Therapy, CBT) เป็นวิธีการรักษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อช่วยในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและจัดการกับอารมณ์

    -Habit-Reversal Training (HRT): เป็นเทคนิคที่ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถแทนที่พฤติกรรมดึงผมด้วยพฤติกรรมอื่นที่ไม่เป็นอันตราย

    -การใช้ยา ในบางกรณี จิตแพทย์อาจแนะนำการใช้ยาต้านซึมเศร้าหรือยาควบคุมความวิตกกังวล เพื่อช่วยลดอาการของโรค

    -การเข้าร่วมกลุ่ม การพูดคุยกับผู้ที่มีอาการเดียวกันสามารถช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกเข้าใจและมีการสนับสนุนทางจิตใจซึ่งกันและกัน

  • 
    

6. การใช้สารเคมี

• การใช้สารเคมีเช่น ยาย้อมผม การทำสีผมบ่อยๆ อาจทำให้เส้นผมเสียหายและขาดหลุดร่วงได้

7. อายุ

• เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายอาจผลิตฮอร์โมนที่ทำให้เส้นผมบางลง ซึ่งสามารถทำให้ผมร่วงหรือผมบางลงได้ตามธรรมชาติ

8. การจัดแต่งหนีบผม ยืดผม ถักเส้นผม

• การใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น เครื่องหนีบผม, เครื่องเป่าผมที่มีความร้อนสูง สามารถทำให้ผมอ่อนแอและร่วงได้
• ในบางคน ผมร่วงอาจเกิดจากการที่เส้นผมได้รับความเสียหายจากการถักเปีย การมัดผมแน่น หรือการยืดผม