Manthanee Clinic
ข้อน่าสนใจคือ การหาค่า SPF เหล่านี้ทำในห้องทดลอง แต่พอมาใช้จริงกับผิวคนเราในชีวิตประจำวัน มักได้ค่าลดลงเสมอ เนื่องจากปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น ทาไม่หนาเพียงพอ เหงื่อออก การเช็ดถูใบหน้า การซับหน้าบ่อยๆ ล้วนทำให้ครีมกันแดดหลุดออกค่ะ
ค่า SPF(Sun Protection Factor)คืออะไร ต่างกับ PA(Protection of UV-A) อย่างไร
SPF บอกถึงการป้องกันอาการแดงไหม้ที่ผิว ( Sunburn ) ซึ่งมักเกิดจากรังสี UV B
ส่วนPA บอกถึงการป้องกันรังสี UV A ซึ่งไม่ใช่ค่ามาตรฐาน ดังนั้น ถ้าผลิตภัณฑ์ไม่ได้ระบุค่าPA ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ได้ป้องกันค่ะ
ตัวอย่างการแปลผล เช่น ค่าSPF 30 แปลว่าอะไร
แปลว่าถ้าปกติ เมื่อตากแดดที่แห่งหนึ่ง ใช้เวลา 15 นาที จะเกิดอาการแดง หากทากันแดดค่าSPF30 จะใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีก 30 เท่า คือ 450 นาที จึงจะเกิดอาการแดง อย่าลืมว่าต้องทาหนาให้ได้ ถึง 1 มิลลิเมตรนะคะ
ค่าSPF ยิ่งสูงยิ่งดีหรือไม่
ไม่จำเป็นค่ะ เพราะค่าSPF ตั้งแต่ 15 ขึ้นไป ก็สามารถดูดซับ UV B ได้พอๆกัน คือเกิน 90 % และไม่ว่าจะสูงแค่ไหน ก็ไม่สามารถได้ค่าถึง 100 % ค่ะ