Sculptra คืออะไร?

Sculptra คือ นวัตกรรมในการยกกระชับผิว และแก้ไขปัญหาผิว ที่เสื่อมสภาพตามวัย โดยเป็นการฉีดอนุภาคของ Poly-L Lactic Acid (PLLA)ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของบริษัท Galderma ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อทดแทนคอลลาเจนของเดิมที่สูญเสียไปตามอายุ นับเป็นการฟื้นฟูโครงสร้างจากภายในชั้นลึกของผิว ทำให้ผิวกลับมามีคุณภาพดี แข็งแรง ยืดหยุ่นขึ้น ช่วยคืนความอ่อนเยาว์และยกกระชับให้กับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ

นอกจากนี้ยังเป็น Collagen Biostimulation ตัวแรกของโลกที่มีการใช้ฉีดรักษาคนไข้ อย่างแพร่หลายยาวนาน มามากกว่า 25ปีใน40ประเทศทั่วโลก

Sculptra?เป็นโปรแกรมที่เหมาะกับใคร?

Sculptra เป็นการกระตุ้นและการสร้างคอลลาเจน Type 1 สามารถฟื้นฟูสภาพผิวที่หย่อนคล้อยขาดVolume ช่วยทำให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์มากขึ้น จึงเหมาะกับผู้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัด ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ จากการฉีดที่ยาวนานยิ่งขึ้น เนื่องจากมีผลงานการวิจัยพบว่า Sculptra สามารถให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปี

ควรทำการรักษากี่ครั้งจึงจะเห็นผลลัพธ์? ทำต่อเนื่องกันได้ไหม? ต้องเว้นระยะกี่สัปดาห์?

ผลลัพธ์หลังเข้าโปรแกรมฉีด Sculptra?จะค่อยๆ เห็นผลที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงจากหลังจากการฉีดประมาณ 2-3 สัปดาห์ เป็นต้นไป โดยตามผลการวิจัยพบว่า สามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิตCollagen Type1 เป็นปริมาณสูงถึง 66.5% ในช่วงหลังจากที่ได้ทำการฉีดไปแล้ว3เดือน ซึ่งCollagen Type1เป็นคอลลาเจนในชั้นผิว ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างผิวหนังมากที่สุดทโดยทั่วไปควรจะฉีด 2-3 ครั้งโดยเว้นระยะทุก 4-6 สัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ผิวกระชับที่คงอยู่ยาวนานและให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

หลังเข้าโปรแกรมฉีด Sculptra สามารถเห็นผลได้ทันทีเลยหรือไม่? ผลลัพธ์อยู่ได้นานเท่าไหร่?

หลังการรักษาจะยังไม่สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที แต่ผิวจะค่อยๆกระชับขึ้นอย่างต่อเนื่องและดูเป็นธรรมชาติซึ่งจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ หลังจากการฉีดไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ และเห็นผลลัพธ์ต่อเนื่องยาวนานถึง 25 เดือน

Sculptra?มีกระบวนการทำงานอย่างไร?

1.Sculptra 1 ขวดนั้นจะผสมด้วย Sterile Water 8 cc เขย่าให้เข้ากัน และผสมยาชา 2 cc รวมเป็น 10 cc แพทย์จะเริ่มทำการฉีดในผิวหนังชั้นลึกSubcutaneous บนใบหน้าด้านขวาและซ้าย ด้านละ 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ขมับ (Temple area), แก้มด้านข้าง (Zygomatic area), โหนกแก้ม (Malar area), ใต้โหนกแก้ม (Submalar area), หน้าใบหู (Preauricular area) และแนวกราม (Jawline area)

2.ผิวจะดูเติมเต็มทันทีหลังการฉีด Sculptraเนื่องจากปริมาตรน้ำที่ฉีดเข้าไป

3.หลังจากฉีด 2-3 วัน น้ำและส่วนประกอบต่างๆจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยจะเหลือเพียงแค่อนุภาคของ Sculptra ทำให้อาจจะเห็นร่องลึกริ้วรอยกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

4.อย่างไรก็ตาม Sculptra จะเริ่มกระตุ้นผ่านระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยดึงเซลล์ Macrophages มาล้อมรอบอนุภาคของ Sculptra จำนวนมาก และมีการส่งสัญญาณให้เซลล์Fibroblastเข้ามารวมตัวกันมากขึ้น

5.Fibroblast เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างผิวหนังจึงทำให้ผิวมีความแข็งแรงและกระชับ

6.เมื่อเวลาผ่านไป อนุภาคของ Sculptra จะค่อยๆหายไป เหลือเพียงเส้นใยคอลลาเจน ที่มาสะสมแทน และฟื้นฟูความแข็งแรงโครงสร้างผิวหนังในระยะยาว ช่วยยกกระชับใบหน้าและฟื้นฟูคุณภาพผิวยาวนาน 25 เดือน

เมื่อเวลาผ่านไปบวกกับอายุที่เพิ่มมากขึ้นโครงสร้างของใบหน้าและผิวมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง?

โครงกระดูกใบหน้าจะเปลี่ยนแปลงรูปทรงตามการสลายของกระดูก?มีการสูญเสียปริมาตรบนใบหน้า(Volume loss) ส่งผลให้ใบหน้าตอบและไม่สดใส ที่สำคัญคือเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มลดลงโดยปกติจะเริ่มสร้างลดลงตั้งแต่อายุประมาณ 20 ปีและเมื่ออายุถึงวัย 45 ปีการสร้างคอลลาเจนในผิวจะยิ่งเริ่มลดน้อยลง จึงทำให้สังเกตเห็นชัดได้ว่าผิวมีความหย่อนคล้อยและไม่กระชับเหมือนเดิม เนื่องจากคอลลาเจนเป็นส่วนสำคัญในการพยุงโครงสร้างของผิวหากคอลลาเจนลดลงจะทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเสียรูปทรงได้

คอลลาเจนคืออะไร?มีทั้งหมดกี่ชนิด?แต่ละชนิดมีความแตกต่าง?หรือสำคัญอย่างไรบ้าง?

คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนังโดยมีสัดส่วนสูงถึง80% เป็นโครงสร้างสำคัญของเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็นและข้อต่อเป็นต้น โดยในร่างกายคนเรา มีคอลลาเจนหลากหลายชนิด ซึ่งชนิดที่สำคัญและเราสามารถพบได้บ่อยมีด้วยกัน 3 ชนิด ดังนี้

1.คอลลาเจนType 1เป็นชนิดที่พบได้มากที่สุดในร่างกายโดยพบมากอยู่ในผิวหนังและเส้นเอ็นมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง

2.คอลลาเจนType2 เป็นเส้นใหญ่ที่หลวมกว่าType1พบมากอยู่ในกระดูกและข้อต่อ

3.คอลลาเจนType3 พบมากอยู่ในผิวหนังและหลอดเลือดแต่ไม่แข็งแรงเท่ากับคอลลาเจนType1

คอลลาเจนชนิดไหนที่จำเป็นต่อผิวของเรามากที่สุด?

คอลลาเจนที่มีความสำคัญกับผิวหนังของเรามากที่สุดก็คือคอลลาเจนType1 เนื่องจากพบมากที่สุดในผิวหนัง ยิ่งอายุเรามากขึ้นกลับกันร่างกายจะสามารถผลิตคอลลาเจนได้ลดลง เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป เราจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนในผิวปีละ 1-2% และเมื่ออายุถึงวัย 45 ปีการสร้างคอลลาเจนในผิวจะยิ่งเริ่มลดน้อยลง สัญญาณอย่างหนึ่งที่มองเห็นได้คือผิวจะไม่กระชับยืดหยุ่นเหมือนเดิม เริ่มเกิดริ้วรอยต่างๆที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งSculptraหรือCollagen Biostimulatorเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในร่างกายของตัวเองตามธรรมชาติให้เพิ่มมากขึ้น โดยตามผลการวิจัยจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิตCollagen Type1 สูงถึง66.5%หลังจากฉีดไปแล้วสามเดือน ซึ่งถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่สามารถผลิตได้มากเทียบเท่าในตอนนี้

วิธีการเตรียมตัวก่อนเข้าโปรแกรมSculptra

1.ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง

2.ก่อนการฉีด 2 สัปดาห์ ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่มแอสไพริน

3.ก่อนการฉีด 2สัปดาห์ ควรงดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา เป็นต้น

4.ก่อนการฉีด 1-3 วัน ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

5.ผู้ที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรไม่สามารถรับการรักษาได้

คำแนะนำหลังการรักษาด้วยโปรแกรมSculptra

1.หลังจากการฉีดสามารถใช้ชีวิตตามปกติแต่ควรประคบเจลเย็นบริเวณที่ทำการฉีดในช่วง 24 ชั่วโมงแรกเพื่อช่วยลดอาการบวม

2.เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นควรนวดทั่วบริเวณใบหน้าโดยใช้หลักการ Triple 5 ครั้งละ 5 นาที 5 ครั้งต่อวันเป็นระยะเวลาติดต่อกัน 5 วันเพื่อให้อนุภาคสาร PLLA กระจายทั่วใบหน้า และกระตุ้นคอลลาเจนในบริเวณที่ต้องการ

3.ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้า การอบซาวน่า การอบไอน้ำ เป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมง

4.ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดและแสงยูวีจนกว่าอาการบวมแดงจะหายไป

5.ห้ามฉีดหรือทำการรักษาหน้าด้วยหัตถการอื่นๆ ประมาณ 2-4 สัปดาห์ หลังจากการรักษา