โปรแกรม Oligio คืออะไร

Oligio คือเครื่องที่มีการนำเทคโนโลยีการปล่อยคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar Radio frequency) ทำให้ เกิดความร้อนลึก (Deep heating) ที่สามารถลงได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) ทำให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินที่หย่อนคล้อย หดตัว เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่วนผิวด้านบน (Epidermis) จะช่วยทำให้เกิดการ Rejuvenation ส่งผลให้ผิวตึงกระชับแน่นและไม่หย่อนคล้อย และการที่ความร้อนลงลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง(Subcutaneous fat) ส่งผลให้เซลล์ ไขมันลดลงจึงเหมาะกับเคสคนไข้ที่มีเหนียง หรือมีไขมันที่บริเวณหน้า โดยใช้เวลาในการรักษาประมาณ 20- 30 นาที หลังการรักษา คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ไม่ต้องพักฟื้น

Monopolar RF treatment อาศัยการสั่นของกระแสไฟฟ้าจากการปล่อยคลื่นวิทยุความถี่สูง โดยจะส่งกระแสคลื่นความถี่สูง 6.78 MHz ท าให้เกิดการชนกันระหว่างโมเลกุลที่มีประจุและไอออนซึ่งจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนลึกที่อุณหภูมิประมาณ 40 – 60 องศาเซลเซียส บนเนื้อเยื่อไปที่เซลล์ผิวเพื่อกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวเกิดการยกกระชับขึ้น

โปรแกรมOligio เหมาะกับใคร?

- คนที่ต้องการยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อย มีกรอบหน้าไม่ชัด

- คนที่มีริ้วรอยร่องแก้มลึก

- คนที่ใบหน้ามีไขมันสะสมเยอะ แก้มเยอะ มีเหนียง คาง 2 ชั้น

- คนที่ต้องการยกกระชับเปลือกตา เปลือกตาเริ่มตก หนังตาตก และต้องการยกคิ้ว

- คนที่มุมปากเริ่มตก มีร่องหรือริ้วรอยในระยะเริ่มต้น

- คนที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวหน้า 

ผลลัพธ์หลังการรักษา

• ผิวยกกระชับ แน่นขึ้น (Skin Lifting and Tightening)  • ผิวหย่อนคล้อยลดลง • ร่องแก้ม ตื้นขึ้น • ผิวแน่นขึ้น

• กรอบหน้าชัด (Lower face Lifting and Contouring)  • แนวกรามชัด • กรอบหน้าชัด

• ริ้วรอยลดลง (Wrinkle Reduction)  • ริ้วรอยเล็กๆ ตื้นขึ้น • ลดริ้วรอยรอบดวงตา

จุดเด่นของโปรแกรม Oligio

1.Pain Relief:

-มีระบบสั่น (Vibration) ทำให้คนไข้รู้สึกสบาย ระบบการสั่นที่ Hand piece จะช่วยในการลดความเจ็บขณะทำการรักษาได้

-มีระบบการปล่อยความเย็น โดยใช้ Cryogen Gas ความเย็นจะช่วยในการปกป้องผิวชั้นบน (Epidermis) ขณะมีการปล่อยพลังงาน RF ลงไปที่ผิวชั้นลึก  ระบบ Pre & Post spray cooling นี้จะช่วยป้องกันไม่ให้อุณหภูมิ ใต้ผิวหนังมีความร้อนสะสมมากเกินไป ลดอาการระคายเคืองผิวระหว่างการทำ 

2.Faster treatment:

-หัวTip มีขนาดใหญ่ พื้นที่ 4 ตารางเซนติเมตร และมีโปรแกรม Auto mode ที่สามารถปล่อยพลังงานได้อย่างต่อเนื่องตามช่วงเวลาที่ได้ตั้งค่าไว้ (ช่วงความห่าง 0.2 – 1 sec.) ทำให้เวลาที่ใช้ในการรักษาลดลง เหลือเพียง 20  -30 นาที ทำได้ทันทีโดยไม่ต้องทายาชาเนื่องจากมี Cryogen Gas ปล่อยความเย็นช่วยในการปกป้องผิวทำให้รู้สึกเจ็บน้อย

3.Safe Treatment:

-มีระบบการตรวจจับอุณหภูมิขณะทำ หากอุณหภูมิผิวชั้นบนสูงเกิน 43 C จะมีการแจ้งเตือน และตัดการปล่อยพลังงานทันที ช่วยลดความเสี่ยงจากการไหม้ 

-มีระบบการตรวจจับแรงกดผิว ช่วยลดผลข้างเคียงการ burn ผิวชั้นบน เนื่องมาจากการวางหัว Tip ไม่แนบกับผิวคนไข้

-มีการวัดค่าความต่างศักย์ของผิว เพื่อรักษาระดับพลังงาน ที่ปล่อยออกมาให้มีความสม่ำเสมอ

4.Convenience Treatment:

-ตัวเครื่อง มีโหมดรูปแบบการปล่อยพลังงานทั้งหมด 3 ระบบ ในการเลือกใช้งาน คือ Single, Double และ Auto Mode

ความรู้สึกขณะทำการรักษา: คนไข้จะรู้สึกอุ่นๆ หรือร้อน เพราะจะมีการสะสมพลังงานใต้ชั้นผิวอยู่ที่ประมาณ 40 - 60 องศา เพื่อจะทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยใช้เวลาในการรักษาประมาณ 20 – 30 นาที

ผลลัพธ์หลังทำการรักษา: หลังทำอาจจะมีสีผิวอมชมพูเล็กน้อย จะเห็นผลว่าผิวหน้ามีการยกกระชับทันที เนื่องจากคอลลาเจนจะมีการหดตัว ประมาณ 20-30% และจะเห็นผลชัดเต็มที่ประมาณ 3 – 6 เดือน หลังการรักษา ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี ขึ้นกับสภาพผิวของคนไข้และการดูแลตัวเอง 

ข้อห้ามในการรักษา

• บุคคลที่มีการฝังเครื่องมือแพทย์ไว้ในส่วนของร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า ICD หรือมีอุปกรณ์ อิเล็คโทรนิคภายในร่างกาย

• บุคคลที่มีโลหะในบริเวณที่จะทำการรักษา

• บุคคลที่มีโรคผิวหนังบางชนิดที่เกี่ยวกับกระบวนการรักษาบาดแผล

• มีการติดเชื้อในบริเวณที่จะทำการรักษา

• หญิงตั้งครรภ์

ข้อควรระวัง

• บุคคลที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันตัวเองบกพร่อง

• บุคคลที่มี Bio absorbable รากฟันเทียม

• บุคคลที่ต้องกินยาต้านการอักเสบทุกวัน

• บุคคลที่มีรอยสัก (เพิ่งสักมาไม่นาน) ในบริเวณที่ทำการรักษา

• บุคคลที่มีประวัติแผลเป็นคีลอยด์

• บุคคลทีมีการติดเชื้อไวรัสเริม

• บุคคลที่มีประวัติรับการรักษาด้วย Botox หรือ Filler ไม่ถึง 1 เดือน

• บุคคลที่ได้รับการปลูกถ่ายผิวหนังหรือปลูกถ่ายไขมัน บริเวณที่จะทำการ รักษาไม่ถึง 6 เดือน

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น 

• อาการแดง: สามารถเกิดได้ เนื่องมาจากมีความร้อนสะสมใต้ผิว อาการจะหายได้ประมาณ 1 ชั่วโมง

• อาการบวม: อาจพบได้ในบางเคส โดยอาการจะดีขึ้นประมาณ 2-3 วัน

• อาการ Burn ผิวไหม้: เกิดขึ้นได้หากใช้พลังงานสูงเกินไป ป้องกันโดยการใช้พลังงานความร้อนที่ระดับ Hot But Tolerance คือร้อนแต่ทนได้

คำแนะนำหลังทำการรักษา

• หลีกเลี่ยงการสตรีมซาวด์น่า นวดหน้า หรือการรักษาที่มีความร้อน เช่น เลเซอร์ หลังทำการรักษาประมาณ 1 สัปดาห์

• หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด แนะนำให้ทาครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป

• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่

• หลังทำการรักษาสามารถแต่งหน้า และใช้ชีวิตได้ตามปกต